Monthly Archives: มกราคม 2013

Food of Argentina

มาตรฐาน

นิกิต้าเคยให้สัญญากับบีลม่า(ครูชาวอาร์เจนติน่าของนิกิต้า)เอาไว้ว่า จะนำเรื่องราวนี้มาเขียนให้ชาวบล๊อกได้อ่านกัน เมื่อเธอได้รู้อย่างนั้นแล้วก็เกิดอาการตื่นเต้นเป็นการใหญ่ ที่จะได้มีคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งได้รู้จักเธอ

ในชั้นเรียนวิชาภาษาสเปนซึ่งมีนิกิต้าเป็นนักเรียนอยู่คนเดียวของห้อง บีลม่าตัดสินใจพานิกิต้ามาทัศนศึกษาเรียนรู้นอกสถานที่ด้วยการสอนทำอาหารที่บ้านของเธอ บ้านของบีลม่าอยู่บนหุบเขาซึ่งต้องขับรถขึ้นเขาไป เส้นทางเดินค่อนข้างลากชันและลำบาก มีครั้งหนึ่งที่หิมะตกหนักถึงขนาดทำให้เธอขับรถมาสอนที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่รู้ไหมว่าเมื่อนิกิต้าไปถึงที่บ้านเธอแล้ว ด้วยสถานที่ตั้งที่อยู่บนเขา ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองบาลิโลเช่ได้รอบเมือง เป็นวิวธรรมชาติที่สวยมากได้เห็นทั้งทะเลสาปและก็ยอดเขาของเทือกเขาแอนดีส

เอาล่ะเรามาเรียนทำอาหารกันดีกว่า บีลม่าบอกว่าวันนี้เธอจะสอนทำ “empanada”(เอ็มปานาด้า) ลักษณะของเอ็มปานาด้า ก็มีรูปร่างคล้ายๆกระหรี่ปั๊บของเมืองไทยเราเนี่ยแหละ เพียงแต่ว่าของเขาจะกินเป็นอาหารหลักแต่ของบ้านเราจะกินเป็นของหวานหรือขนมกัน

มาเริ่มต้นกันที่ส่วนประกอบกันก่อนเลย

ส่วนประกอบแยกเป็นสองส่วน แยกเป็นส่วนของแป้ง กับ ส่วนของไส้

ส่วนประกอบของแป้ง

>แป้ง<

>น้ำมันพืชหรือเนย<

>น้ำ<

>เกลือ<

ผสมส่วนประกอบทั้งหมดให้เข้ากันแล้วพักไว้

ส่วนประกอบของไส้

>เนื้อสับ<

>หอมใหญ่สับเ<

>พริก (อย่างในรูปไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน Bell Pepper หรือเปล่า?) <

>มะเขือเทศหั่นเป็นลูกเต๋า<

>มะกอก<

>ไข่ต้มและมันฝรั่งต้ม (ต้มไปพร้อมกันเลย จะได้ไม่เปลืองแก๊ส) <

ส่วนประกอบพิเศษ

>ดิกชันเนอร์รี่สเปน – ไทย อีกหนึ่งเล่ม เพื่อช่วยในการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียน<

วิธีทำ

ผสมแป้ง,น้ำมันพืช,น้ำและเกลือ นวดให้เข้ากันแล้วพักไว้

แอบถ่ายรูปครูระหว่างทำ

มาเริ่มต้นทำไส้กันเลย หั่นหอมก่อน

ผัดหอมใหญ่กับน้ำมันเล็กน้อย จากนั้นตามด้วยพริกมะเขีอเทศ,มันฝรั่ง ผัดให้แห้งยกลงจากเตา แล้วปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย

นำมะกอกดองมาหั่นเป็นแว่นๆ เพื่อที่จะเป็นส่วนประกอบของไส้พร้อมกับไข่ต้มที่ได้ต้มไว้แล้ว

นำส่วนแป้งที่พักไว้ ออกมาตัดเป็นก้อนกลมๆ ใช้ไม้คลึงให้เป็นแผ่น

ใส่ไส้ลงไป จากนั้นเอาน้ำแตะรอบขอบแป้งแล้วพับปิดทบกัน

จับขอบแป้งพับเป็นจีบเหมือนกระหรี่ปั๊บ ก็จะได้ออกมาอย่างที่เห็น อันนี้เป็นฝีมือของบีลม่า

ส่วนอันนี้เป็นฝีมือของนิกิต้าเอง นิกิต้าทำขอบแป้งไม่เป็น พอทำออกมาแล้วดูตลก

ครูก็เลยบอกว่าให้ใช้ส้อมจิ้มปิดปากแป้งแทน ก็เลยออกมาอย่างที่เห็น

เปิดเตาอบทิ้งไว้ และก็ตีไข่หนึ่งฟอง เพื่อใช้ทาไปที่ตัวเอ็มปานาด้า เพื่อให้ดูเป็นสีเหลืองทองดูน่ากิน

และแล้วเอ็มปานาด้าของเราก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสริฟ์

Food pyramid

มาตรฐาน

อาหารหลัก 5 หมู่ คือ อาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 5 ชนิด โดยนำอาหารที่มีสารอาหารเหมือนกัน มาไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน ซึ่งคนเราในแต่ละวันนั้น ต้องการสารอาหารทั้ง 5 ชนิด

ดังนั้นเราควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

five-major-food-groups5

หมู่ที่ 1 โปรตีน
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
หมูู่ที่ 3 วิตามิน
หมู่ที่ 4 แร่ธาตุ
หมู่ที่ 5 ไขมัน

เพื่อความเข้าใจง่ายเราจะจัด อาหารหลัก 5 หมู่ กันใหม่ เพื่อการจดจำที่ง่าย และ สามารถหาทานได้อย่างถูกต้อง จะได้มีประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งเราจะจำแนกออกเป็น 5 หมู่ และบอกประโยชน์ รวมทั้งตัวอย่างดังนี้

five-major-food-groups

อาหารหมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่วเมล็ดแห้ง (โปรตีน)

five-major-food-groups1

อาหารหมู่ที่ 2 ข้าวแป้ง น้ำตาล เผือก มัน (คาร์โบไฮเดรต)

five-major-food-groups2

อาหารหมู่ที่ 3 ผักต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)

five-major-food-groups3

อาหารหมู่ที่ 4 ผลไม้ต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)

five-major-food-groups4

อาหารหมู่ที่ 5 น้ำมัน และไขมัน จากพืชและสัตว์ (ไขมัน)

ที่มา :: http://www.rakjung.com/healthy-no130.html#

Favorite Food in Bangkok.

มาตรฐาน

Wholly Cow  สวรรค์คนรักเนื้อ อารีย์ ซอย 2

wholly-cow-cover

เริ่มจากของเบาๆ อย่าง “ซีซาร์สลัด” กับน้ำสลัดที่ทางร้านทำเองรสเข้มข้นเข้ากันดีกับผักกาดคอสกรอบ สด เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว ใครอยากสั่ง “ชาเย็น” รสอมเปรี้ยวอมหวานมาคู่กันก็เก๋อยู่ ต่อกันด้วย “Lobster Bisque” ซุปข้นกุ้งล็อบสเตอร์กับเนื้อซุปที่ให้รสของกุ้งล็อบสเตอร์มาเต็มๆ คำ ใครอยากกินคู่กับ “Sex on the Beach” ที่ผสมมาเก๋พร้อมกลิ่นเหล้ามิโดริหอมๆ ก็เก๋อยู่ มาถึงจานสเต็ก ใครชอบแบบเนื้อนุ่มลองสั่ง “Tenderloin Pepper Sauce” ที่เลือกเนื้อสันชั้นดีมาย่างให้สุกตามแบบที่คุณชอบ ราดด้วยซอสพริกไทยรสเผ็ดนิดเค็มหน่อย แต่ได้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์หรือจะลอง “Rib Eye with Gravy Sauce” เป็นเนื้อแน่นๆ คัดอย่างดีย่างมาจนสุกพอดี ราดด้วยซอสเกรวี่รสเข้มข้น ก่อนกลับอย่าลืมปิดท้ายด้วย “Chocolate Soufflé” ของโปรดของใครหลายคนกับรสช็อกโกแลตเข้มข้นที่อบมาพอดีข้างนอกเป็นเค้กเนื้อนุ่ม ด้านในเป็นซอสช็อกโกแลตร้อนๆ อร่อยน่าดู 

wholly-cow-23

Gaggan Progressive Indian Cuisine
ค่ำคืนแห่งความอร่อย
หลังสวน ซอย 3

twosave-gaggan-cover

เริ่มจากเรียกน้ำย่อยเบาๆ กับ “Yoghurt” เป็นจานเด็ดที่เสิร์ฟมาในช้อนด้วยเทคนิคสุดล้ำ ทำให้เม็ดโยเกิร์ตแตกละลายในปาก ต่อด้วย “Papadums” ข้าวเกรียบทำจากข้าวแผ่นบางๆ มาช่วยเรียกน้ำย่อยอีกอย่าง ต่อด้วย “Fish and Chips” ตามสไตล์เชฟแล้วไม่มีคำว่าธรรมดา แม้จะเป็นปลาทอดกรอบตามแบบดั้งเดิม แต่เสิร์ฟมาพร้อมเลมอนคริสป์แผ่นบาง พร้อมซอสมัสตาร์ดและมายองเนสให้รสเผ็ดนิดๆ แอบพักกันสักนิดด้วย “Sweet Lime” ค๊อกเทลคั่นมื้อ เสิร์ฟมาในถ้วยเล็กที่มีเนื้อมะนาวหั่นเป็นชิ้นน้อยๆ แต่มีความขมของวอดก้ามาช่วยตัด กลับมาที่ “Truffle Air” จานโปรดสุดๆ ของคนเขียนเพราะเป็นซุปทรัฟเฟิลที่ได้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์มาแต่ไกล และมีรสเผ็ดนิดๆ ของพริกให้ตัดรสกัน จานต่อมาเป็นชื่ออาจจะฟังดูล่อแหลมแต่ก็เก๋ไม่หยอกกับ “Viagra” หอยนางรมคัดสดเสิร์ฟมาคู่กับซอสจั๊ดนี่แบบอินเดียและโฟมเลมอนจนได้รสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ น่าจะถูกปากคนไทย ต่อด้วย “Crab with no Claws” ปูที่แกะมาเป็นชิ้นเต็มคำในแกงมาลาบา รสจัดตามแบบฉบับอินเดีย เสิร์ฟมาคู่กับแป้งนานเหนียวนุ่ม และจานต่อมาเป็น “Burger on the Rocks” มาพร้อมกับความตื่นตาตื่นใจ โดยมีเชฟคนเก่งมาทำอาหารให้ถึงโต๊ะ ด้วยการย่างเนื้อแกะบด ปรุงรสกับจั๊ดนี่รสเผ็ดนิดๆ ย่างบนหินร้อน แล้วก็มาถึงของหวานกันบ้าง “Up in Smoke” ไอศกรีมควันบุหรี่ เสิร์ฟมาพร้อมครอบแก้ว ข้างในเป็นควันให้กลิ่นคล้ายบุหรี่มากทีเดียว พอกินคู่กับไอศกรีมวานิลลาและกาแฟก็อร่อยไปอีกแบบ เป็นการจบมื้อที่ฟินจริงๆ

twosave-gaggan-10

อิสระคาเฟ่
สุดยอดบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า
โรงแรมอนันตราหัวหิน

SONY DSC

ที่ อิสระคาเฟ่ เขาขนอาหารเช้าแทบทุกอย่างมาให้คุณเลือกทานกันแบบจุใจ ไม่ว่าจะเป็น วาฟเฟิลหอมๆ แพนเค้กนุ่มๆ หรือจะเป็นเฟรนช์โทสอร่อยๆ ที่ทำสดใหม่ให้ได้ชิมกัน พร้อมท็อปปิ้งกว่า 20 ชนิดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแยมผลไม้หลากรสมากเท่าที่คุณจะนึกได้ ทั้งสตรอเบอร์รี่ ส้ม มะพร้าว สัปปะรด มะละกอ ผลไม้รวม หรือจะเป็นซอสวานิลลา ซอสช็อกโกแลต เนยถั่ว เมเปิ้ลไซรัป น้ำผึ้ง หรือวิปครีม แต่สำหรับคนรักสุขภาพก็ต้องมาที่สลัดบาร์ที่มีผักสดใหม่พร้อมน้ำสลัดหลากชนิดให้เลือก ส่วนคนที่หลงรักเมนูไข่ต้องมาที่นี่ เพราะเขาจัดให้ทั้งไข่ดาว ไข่ลวก ออมเล็ตใส่เครื่องต่างๆ เลือกได้ว่าจะเอาสุกมากหรือสุกน้อย เพราะทำให้ใหม่สดๆ ทุกใบ ถ้าอยากหาอะไรหนักท้องขึ้นมาหน่อยต้องมาที่โซนขนมปัง ไม่ว่าจะเป็นมัฟฟิ่น ขนมปังโฮลวีท เดนิชบลูเบอร์รี่ ขนมปังงาดำ ครัวซอง ขนมปังดาร์กไลน์ หรือจะเปลี่ยนมารับอาหารเช้าแบบไทยๆ อย่าง ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น หรือ ข้าวต้มร้อนๆ สักชามก็ไม่ว่ากัน สำหรับเด็กๆ จะต้องตื่นตาตื่นใจกับโซนซีเรียลที่มีให้เลือกหลากหลาย หรือจะเป็นมูสลี่ โยเกิร์ต ก็อร่อยแบบได้สุขภาพ ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วยสมูทตี้ผลไม้แสนอร่อยสักแก้ว เพอร์เฟ็กต์สุดๆ

twosave-issara-cafe-14

เท็น เท็น สุกี้
ร้านสุกี้สุดอร่อยในเมือง
ชั้น 3 โรมแรมเดอะทวินทาวเวอร์

twosave-com-ten-ten-suki-cover

ด้วยความอร่อยแบบสุดยอดและประสบการณ์ที่เปิดมายาวนานกว่า 17 ปี ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า Ten Ten Suki ได้กลายเป็นตำนานสุกี้เจ้าอร่อยประจำโรมแรมเดอะทวินทาวเวอร์ไปแล้ว วันนี้ Twosave ขอมาท้าพิสูจน์สักหน่อย เริ่มจากเมนูของว่างทานเล่นอย่าง “ปอเปี๊ยะสวรรค์” ปอเปี๊ยะกุ้งตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม นำไปทอดจนเป็นสีเหลืองทอง กรอบนอกนุ่มใน ยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยยิ่งอร่อยดับเบิล อีกเมนูอร่อยที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ “เป็ดย่าง” ด้วยเป็ดย่างชิ้นโตหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ราดด้วยซอสรสเด็ด อร่อยสุดยอด มาถึงร้านสุกี้แล้วถ้าไม่สั่งมาชิมก็คงจะกะไรอยู่ ที่นี่มีของให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เกี๊ยวกุ้ง, เกี๊ยวหมูสามรส, สาหร่ายห่อกุ้ง, ลูกชิ้นปู, ลูกชิ้นกุ้ง, ลูกชิ้นปลา, ลูกชิ้นรักบี้, เนื้อกุ้งสด, เนื้อปลาสด, เครื่องในต่างๆ, ผักสดหลากชนิด โอ๊ยยยย เยอะแยะมากมาย!! แนะนำให้สั่งไข่ไก่มาเพิ่มความเข้มข้นของน้ำซุป และจุดเด่นของร้านต้องยกให้กับน้ำจิ้มรสเด็ดที่เราขอการันตีความอร่อย ด้วยรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านจนแทบไม่ต้องขอพริก มะนาว กระเทียมเพิ่มเลย เมื่อทานเครื่องสุกี้หมดแล้วลองสั่งข้าวสวยมาคลุกเคล้ากับน้ำซุปที่เหลือ ก็จะปิดท้ายมื้ออร่อยอย่างลงตัวสุดๆ

twosave-com-ten-ten-suki-13

เลิฟ อีส คาเฟ่
รักรอบตัว
ถนน พระราม 5 นครอินทร์

0231-love-is-cafe-cover

เริ่มจากจานไทยๆ อย่าง ข้าวผัด เลิฟ อีส ที่คุณมิงค์เจ้าของร้านภูมิใจเสนอ ด้วยการนำข้าวมาผัดกับน้ำพริกเผาให้ความหอมหวานแต่ตัดรสเผ็ดด้วยพริกขี้หนูสด เสิร์ฟมาพร้อมไข่เจียวฟูบนหน้าและไส้กรอกทอดก็อร่อยแบบไทยๆ ได้ มาถึง สปาเกตตีแกงเขียวหวานกุ้งกรอบ ที่ให้กุ้งตัวใหญ่ชุบแป้งทอดกรอบมาแบบเต็มๆ กินคู่กับแกงเขียวหวานน้ำขลุกขลิกและเส้นสปาเกตตีเหนียวนุ่ม มาถึงอาหารฝรั่งกันบ้าง ฟิช แอนด์ ชิปส์ ของร้านนี้พิเศษตรงซอสที่ใช้ครีมสลักผสมกับเนื้อผักลงไป ให้รสหวาน เค็มมัน กำลังดี กินคู่กับเนื้อปลาชุบแป้งทอดกรอบและเฟรนช์ฟรายส์ก็เข้ากัน มาถึงของหวานกันบ้าง ช็อกลาวา เป็นของโปรดของใครหลายคน แต่ที่ Love Is Café จะทำแบบไม่หวานมาก แต่ช็อคโกแลตเข้มข้นถึงใจ กินคู่กับ สตรอเบอร์รี่ สมูธตี้ สีแดงสวยรสอมหวานอมเปรี้ยวก็กำลังดี และในหน้าร้อนแบบนี้ลองสั่ง บลู โซดา มาจิบเล่นๆ ให้ได้กลิ่นหอมๆ ของมะพร้าวก็เก๋ไม่หยอกนะคะ

twosave-com-love-is-cafe-22

ที่มา :: http://www.twosave.com/

Vegetarian Food.

มาตรฐาน

fried taofu

 

j food2

 

  สำหรับ อาหารเจ เราจะทานในระหว่างเทศกาลกินเจ คือช่วงระหว่างวันขึ้น 1-9 ค่ำเดือน 8 (ตามปฏิทินจีน) ซึ่งตรงกับประมาณเดือนตุลาคม มีระยะเวลาประมาณ 10 วัน โดยมีความเชื่อว่า หากใครกินเจจะได้บุญ ส่งผลให้ชีวิตประสบความสุขความเจริญ ทั้งเป็นการต่อชีวิตให้ยืนยาวต่อไปด้วย หรือในบางคนอาจจะทาน “อาหารเจ” เป็นกิจวัตรประจำวันก็ได้

 แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงอาหารเจ เราต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ทุกชนิด และปรุงอาหารด้วยแป้ง เต้าหู้ ซีอิ๊ว ถั่วเหลือง ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งผักนานาชนิด ยกเว้น ผักฉุน 5 ประเภท ที่เป็นผักรสหนัก มีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ และยังมีพิษทำล

 

1.กระเทียม ทั้งหัวกระเทียม ต้นกระเทียม ส่งผลกระทบต่อธาตุไฟของร่างกาย แม้ว่ากระเทียมจะมีสารที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล แต่กระเทียมมีความระคายเคืองสูง อาจไปทำลายการทำงานของหัวใจได้ ผู้เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือโรคตับ ไม่ควรรับประทานมาก

2.หัวหอม รวมไปถึงต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่ ซึ่งตามหลักการแพทย์โบราณของจีนเชื่อว่า หัวหอม จะกระทบกระเทือนต่อธาตุน้ำในร่างกาย และไปทำลายการทำงานของไตได้ แม้ว่าหอมแดง จะมีฤทธิ์ช่วยขับลม แก้ท้องอืด แก้ปวดประจำเดือน แต่ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ ได้ง่าย รวมทั้งนัยน์ตาพร่ามัว มีกลิ่นตัว

3.หลักเกียว หรือที่รู้จักว่า กระเทียมโทนจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียมที่พบเห็นทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กและยาวกว่า ในทางการแพทย์ของจีนเชื่อว่า หลักเกียว ส่งผลกระทบกระเทือนต่อธาตุดินในร่างกาย และไปทำลายการทำงานของม้าม

4.กุยช่าย เชื่อกันว่า กุยช่าย จะไปกระทบกระเทือนต่อธาตุไม้ในร่างกาย และทำลายการทำงานของตับ

 5.ใบยาสูบ ไม่ว่าจะเป็นยาเส้น บุหรี่ ของเสพติดมึนเมา อะไรต่าง ๆ จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อธาตุโลหะในร่างกาย และทำงานการทำงานของปอด

menufood1

 

menufood2

 

 

menufood3

 

และหากต้องการกินเจให้ถูกหลัก เราควรรับประทานผักผลไม้ต่าง ๆ ให้ครบ 5 สีในแต่วัน ตามสีของแต่ละธาตุทั้ง 5 คือ

1.สีแดง แดงส้ม แสด ชมพู เช่น มะเขือเทศ แครอท พริกสุก มะละกอ แตงโม ฯลฯ ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไฟ จะช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสขม ที่จะไปทำอันตรายต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต

2.สีดำ น้ำเงิน หรือ ม่วง เช่น ถั่วดำ เผือก มะเขือม่วง เห็ดหูหนู ลูกหว้า องุ่น เป็นสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ มีประโยชน์ต่อไต ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเค็ม

3. สีเหลือง ทั้งเหลืองแก่ และเหลืองอ่อน เช่น ฟักทอง ถั่วเหลือง มะม่วง ข้าวโพด กล้วย ทุเรียน เป็นสัญลักษณ์ของธาตุดิน มีประโยชน์ในการบำรุงม้าม แต่ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสหวาน

4. สีเขียว ทั้งสีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ฝรั่ง ถั่วฝักยาว ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไม้ หากรับประทานมาก ๆ จะช่วยบำรุงตับ ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ ควรงดทานอาหารรสเปรี้ยว

5. สีขาว เช่น ลูกเดือย ผักกาดขาว มะพร้าว น้อยหน่า ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุโลหะ มีประโยชน์ต่อปอด สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องปอด ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเผ็ด

ที่มา :: http://health.kapook.com/view5380.html

เอย่างไรก็ตาม ผู้ทานอาหารเจ ควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 สี ตามธาตุทั้ง 5 โดยสลับกันไปในแต่ละวัน เพื่อให้ได้สารอาหาร และคุณค่าที่ครบถ้วน

Food of Hungary

มาตรฐาน

อาหารฮังการี,ยุโรป
                                                                                                      อาหารฮังการี,ยุโรป

     กูลาช ( Gulasch ) เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงในประเทศฮังการี และเป็นอาหารที่คนเยอรมันชอบกินกันมาก ลักษณะคล้ายกับซุปข้นหรือสตู ทำมาจากเนี้อหมู ไก่งวง หรือเนื้อก็มี นอกจากนี้ก็มีToltottkaposzta หรือ กะหล่ำปลีห่อข้าวรสเปรี้ยว อีกด้วย เมื่อลองอาหารคาวแล้ว อย่าลืมชิมขนมพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของฮังการีด้วย เช่นLangose เป็นแป้งเหนียวๆ ป้ายด้วยเนยกระเทียม ราดซอสมะเขือเทศ แล้วโรยหน้าด้วยมอสเรลล่าชีส กลิ่นหอมรสชาติดีมากมาย แต่ต้องทานร้อนๆ หรืออาจลิ้มรส Stuffed Pancake (แพนเค้กสอดไส้) ที่เลื่องลือมานานนับร้อยๆ ปีแล้ว และ Sponge Cake ก็อร่อยน่าลองไม่แพ้กันนักท่องเที่ยวอาจไปแวะชิมได้ตามร้านอาหารทั่วไป หรือ ภัตตาคารภายในที่พักในฮังการีของท่านก็ได้เช่นกัน

Foods Dangerous To Health.

มาตรฐาน

อันดับ 10

โปเตโต้ชิพ อาหารขบเคี้ยว
การทอดโปเตโต้ชิพจะทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ออกมา 
ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท 

——————————-

อันดับ 9

โดนัท
โดยเฉลี่ยแล้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ 
ในโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน 
มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้

——————————-

อันดับ 8

ไอศครีม
มีไขมันอยู่สูงมาก (ขนาดปกติ 4 ออนซ์) มีไขมันเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน
มีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีน้ำตาลอยู่มาก
ทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเ่ยวย่น

——————————-

อันดับ 7

ชิ้นไก่เนื้อนุ่มไม่มีกระดูก
ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว น้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆ
การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไป จะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก 
จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะ

——————————-

อันดับ 6

น้ำอัดลม
สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน (Phosphoric acid) ในด้านความเป็นกรดด่าง 
มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วันกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้

——————————-

อันดับ 5

พิซซ่า
พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วยอาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 5 ชนิด 
เนยแท้ (cheese) เพียง 10% เท่านั้น แป้ง ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี 
ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่เข้าไป ใหม่ -ซอสมะเขือเทศ 
ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เอง 
ในร่างกายของท่าน -แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้งชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 
มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้

——————————-

อันดับ 4

โอริโอ้ คุกกี้
ที่เด่นชัดมากก็คือ ส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ช็อก โกเล็ตนั้นเป็นสารอาหารรายการสุดท้าย 
นั่นหมายความว่า มีช็อคโกเล็ตประกอบอยู่น้อยมาก น้ำตาลปริมาณสูง ทำให้ผิวหนังเ่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

——————————-

อันดับ 3

เฟรนช์ฟราย
เป็นอาหารที่มี “ความเป็นพิษสูง”การทอดเฟร้นช์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง 
ทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท

——————————-

อันดับ 2

ฮอทด็อก
ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อ ส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น 
และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก หู เล็บและส่วนอื่นๆของมัน 
เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef) หรือ ทำจากไก่งวงแท้ 100%

——————————-

อันดับ 1

แฮมเบอร์เกอร์
แฮมเบอร์เกอร์ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น 
และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก หูและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef)
แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) 
ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น 
และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดในโลก เพื่อใช้ในการหักล้างแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ

Food For Bone

มาตรฐาน
 
        โดยทั่วไปเมื่อนึกถึงอาหารบำรุงกระดูก ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแคลเซียมเป็นหลัก แคลเซียมเป็นสารอาหารจำพวกแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณสูง เพื่อใช้ในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันในแต่ละวัน
 
อาหารบำรุงกระดูก
        เนื่องจากกระดูกจะปล่อยแคลเซียมให้แก่เลือดในปริมาณน้อยๆ ทุกวัน โดยเลือดจะนำแคลเซียมจากกระดูกไปใช้ทำหน้าที่ต่างๆ มากมาย ขณะเดียวกันร่างกายก็จะนำเอาแคลเซียมจากเลือด วนกลับเข้าไปเก็บไว้ในกระดูกทุกวันเช่นกัน ซึ่งแคลเซียมที่ได้ก็มาจากการดูดซึมจากทางเดินอาหารวันละสองสามครั้ง ตามมื้ออาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั่นเอง 

        ในแต่ละวันร่างกายต้องการแคลเซียมประมาณ 800-1,200 มิลลิกรัม อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมสูงมาก ได้แก่ นมสด ปลาตัวเล็กๆ ปูกะตอย เครื่องดื่มรสช๊อคโกแล็ต รวมถึงอาหารพื้นบ้านชาวอีสานอย่าง กบ เขียด แย้ เป็นต้น จัดได้ว่าเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูงมาก นอกจากนี้ยังมี โยเกิร์ต กุ้ง กะปิ เต้าหู้ และผักบางชนิดจำพวกผักใบเขียว ก็มีแคลเซียมด้วยเช่นกัน

 
รับแคลเซียมน้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น
        ถ้าเป็นในเด็กจะมีการสร้างกระดูกน้อย ทำให้การเจริญเติบโตไม่ดี และความหนาแน่นของกระดูกไม่ถึงจุดสูงสุดสำหรับผู้ใหญ่ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกน้อยลง กระดูกไม่แข็งแรง เป็นตะคริวง่าย เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
 
รับแคลเซียมมากไปจะเกิดอะไรขึ้น
        แคลเซียมจากการรับประทานอาหาร จะไม่มากเกินจนเกิดพิษต่อร่างกาย แต่อาจส่งผลให้ได้รับสารอาหารอย่างอื่นมากเกินความต้องการของร่างกายได้ เช่น โซเดียม ไขมัน เป็นต้น แต่หากรับแคลเซียมจากอาหารเสริม จะต้องระวังเรื่องสมดุลของแคลเซียม เพราะถ้าเสริมแคลเซียมเป็นประจำมากเกินไป โดยที่ร่างกายมีภาวะแมกนีเซียมต่ำ ซึ่งแมกนีเซียมจะเป็นตัวควบคุมการเคลื่อนไหวของแคลเซียม อาจเกิดปัญหาแคลเซียมไปสะสมอยู่ตามกล้ามเนื้อ จนเป็นเหตุให้การหดตัวของกล้ามเนื้อไม่ปกติ เกิดอาการสั่น เป็นตะคริว หากผนังหลอดเลือดเกิดเป็นตะคริว จะทำให้เกิดโรคหัวใจตีบ หลอดเลือดหัวใจแข็งตัว เป็นต้น ถ้าหากเสริมแคลเซียมสูง ก็ควรเสริมแหล่งอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงให้ได้สมดุลกันไปด้วยเช่นกัน
 
        ดังนั้น การบริโภคแคลเซียมเพียงอย่างเดียว จึงไม่เพียงพอต่อการเสริมสร้างกระดูก เพราะนอกจากแคลเซียมแล้ว กระดูกยังต้องการวิตามินดี แมกนีเซียม วิตามินเค แมงกานีส สังกะสี และทองแดงอีกด้วย
 
วิตามินดี : ถ้าร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายดูดซับแคลเซียมได้เพียง ร้อยละ 10-15 เท่านั้น แหล่งของวิตามินดีที่สำคัญคือ แสงแดด อาหารที่มีวิตามินดี คือ นม ปลาแซลมอน กุ้ง เป็นต้น

แมกนีเซียม : ปริมาณครึ่งหนึ่งของแมกนีเซียมในร่างกายอยู่ที่กระดูก ซึ่งจะช่วยดูดซับและใช้วิตามินดี อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น อัลมอนด์ ผักขม ถั่วอัลฟัลฟ่า

วิตามินเค : ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ไม่หักง่าย อาหารที่มีวิตามินเคสูง เช่น ผักขม บร็อคโคลี ผักใบเขียว

เกลือแร่ : นอกจากนี้ในแต่ละวันร่างกายยังต้องการ แมงกานีสและสังกะสี ซึ่งถั่ว ธัญญพืชต่าง ๆ สับปะรด มะเขือเทศ และเต้าหู้ มีทองแดงและแมงกานีสสูง ส่วนอาหารทะเล เนื้อแดง ถั่ว เป็นแหล่งของสังกะสี

อาหารบำรุงกระดูก

Food For Liver

มาตรฐาน

 

 

 

การดื่มเหล้าอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เป็นโรคตับแข็ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนทั่วไปจะไม่เสี่ยงภาวะตับอักเสบ พฤติกรรมการอุปโภคบริโภค รวมทั้งการมีสารเจือปนในอากาศและอาหารมากมายในทุกวันนี้ ได้ทำให้คนส่วนใหญ่กำลังสะสมสารพิษในตับมากมายโดยไม่รู้ตัว

 

โรคตับนับเป็นโรคติดอันดับต้น ๆ ที่มีคนป่วยมากขึ้น สาเหตุสำคัญอีกอย่าง ที่บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือ การทานยาต่าง ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นตับพิการถึง 40% เพราะตับต้องย่อยสลายสารเคมี และนี่คือ 5 อาหารตัดตอนความป่วย ที่ช่วยเคลียร์การสะสมโรคภัยในตับที่มีผลต่อการเจ็บง่าย หายยากของโรคสุขภาพนานาชนิด ที่คุณควรอ่านและควรทำ

 

ซุปรวมเห็ดล้างไขมันในตับ เห็ดช่วยล้างสารพิษ ลดไขมันที่สะสมอยู่ในตับและกระแสเลือด ต่อต้านการก่อตัวของมะเร็ง ลดอนุมูลอิสระ การเกิดซีสต์ ถุงน้ำ เนื้องอก ช่วยสลายเยื่อพังผืดในช่องท้อง อุ้งเชิงกราน มดลูก ทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว

 

การกินเพื่อล้างพิษตับ ควรกินตั้งแต่สามชนิดร่วมกัน โดยนำมาแช่น้ำให้นิ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วต้มกับมะตูมแห้ง ใบเตย หรืออาจนำไปต้มกับสาหร่ายทะเล ทานแทนซุปร่วมกับอาหารในแต่ละมื้อ

 

ขมิ้นชันขับพิษสะสมในตับ ขมิ้นชันจะช่วยบำรุง ฟื้นฟู และล้างสารพิษออกจากตับได้ วิธีที่ง่ายที่สุด คือการกินในลักษณะแคปซูลบรรจุผงสกัด ในเวลาก่อนนอน ปริมาณ 5,000-8,000 มิลลิกรัมต่อวัน

 

เก๋ากี้ปกป้องตับยกระดับความแข็งแรง เก๋ากี้ มีเบต้าแคโรทีน กรดกำมะถัน เอมีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินอี และวิตามินบี 2 ซึ่งมีส่วนในการเสริมภูมิต้านทานโรค เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ป้องกันไขมันพอกตับ ช่วยให้ตับทำงานดีขึ้น วิธีการทานก็ง่ายแสนง่าย เพียงชงเก๋ากี๋แบบชาแล้วดื่มแทนน้ำทั้งวัน หรืออาจทำเป็นโจ๊ก หรือน้ำแกงได้ อย่างตุ๋นกระดูกซี่โครงหมู ต้มฟัก

 

กะหล่ำปลีต่อต้านมะเร็งในตับ  กะหล่ำปลีช่วยเพิ่มสารกลูตาไทโอน ที่ล้างพิษจากควันไอเสียและยา ซึ่งทำให้ตับพิการได้ และยังมีสารอินโดลฟลาโวนอยด์ คาร์บินอล ซัลฟาราเฟน กลูโคซิโนเลต เบต้าแคโรทีน กรดโฟลิก ช่วยต้านการก่อตัวของมะเร็ง บำรุงไต ชะล้างสารพิษ ทำความสะอาดลำไส้ บรรเทาอาการอักเสบจากแผลในสำไส้ บรรเทาอาการแน่นหน้าอก แก้ท้องผูก เจ็บคอ จุกเสียดแน่นท้อง นำมาผสมเป็นค็อกเทลสุขภาพโดยการคั้นสับปะรด แครอท กะหล่ำปลีเข้าด้วยกันบีบมะนาวเพิ่มลงไปแล้วดื่มทันที

 

มะขามป้อมแอนตี้ไวรัสตับ มะขามป้อมอุดมไปด้วยวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ลถึง 160 เท่า และแม้จะถูกทำให้แห้งหรือแช่เย็นเป็นเวลานาน ๆ เท่าใด วิตามินซีก็จะยังคงอยู่ เพราะมะขามป้อมมีสารแทนนิน และโพลีฟีนอลที่ช่วยป้องกันการออกซิไดซ์ของวิตามินซี ซึ่งมะขามป้อมจะช่วยรักษาอาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันการเกิดพิษโลหะหนัก ต่อตับ และยับยั้งการเกิดมะเร็งตับได้ การทานมะขามป้อมนั้นก็ง่ายเช่นกัน โดยนำมาคั้นดื่มเหมือนน้ำผลไม้ทั่วไป

Food For Eyed

มาตรฐาน

(1). ผักใบเขียว (leafy greens)

  • การศึกษามากกว่า 115 รายงานพบว่า ผักใบเขียว เช่น ปวยเล้ง บรอคโคลี ฯลฯ มีลูทีน (lutein), ซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารสีส้มเหลืองที่ทำหน้าที่กรองรังสี UV ในแสงแดดและแสงสีม่วง-น้ำเงินที่ทำให้เกิดโรคจอตาส่วนกลางเสื่อมสภาพ (AMD)
  • แนะนำให้กินผักใบเขียวอย่างน้อยวันละ 100 กรัมอย่างน้อยวันเว้นวัน (every other day) ในรูปสลัดหรือผักสุก
  • การกินพืชผักพร้อมอาหารที่มีไขมันมีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร

 

(2). ไข่ (eggs)

  • ไข่แดง (egg yolk) มีลูทีนและซีแซนทีนที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี
  • แนะนำให้กินไข่(พร้อมไข่แดง) 2 ฟองวันเว้นวัน (ถ้าไม่มีข้อห้าม)

 

(3). เบอรีสีเข้มๆ (dark berries)

  • นักบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กินผลไม้สีน้ำเงิน-ม่วงเข้ม (เบอรี) เช่น บิลเบอรี บลูเบอรี ฯลฯ ซึ่งมีสารแอนโตไซยานินส์ (anthocyanins) เพื่อให้การมองเห็นตอนกลางคืนดีขึ้น
  • อาหารอื่นๆ ที่มีสารนี้ได้แก่ หอมแดง ส้มสีแดง (blood orange) องุ่นแดง ลูกเกด แอปเปิ้ลแดง ข้าวเหนียวดำ ข้าวแดง มะเขือม่วง ฯลฯ หรือพืชผักที่มีสีน้ำเงิน-ม่วง-ดำ [ food-info ][ Wikipedia ],[ WHfoods ]

 

  • สารกลุ่มนี้ช่วยป้องกัน และช่วยชะลอความเสื่อมจากโรคต้อกระจก และจอตาส่วนกลางเสื่อมสภาพ (AMD)
  • กลไกที่เป็นไปได้คือ สารกลุ่มนี้ทำให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรง นำเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงจอตาและเลนส์ตาได้ดีขึ้น

 

(4). ปลาทะเล

  • น้ำมันชนิดโอเมกา-3 ในปลาช่วยลดความเสี่ยงต้อกระจกและจอตาส่วนกลางเสื่อมสภาพ นอกจากนั้นยังลดอาการตาแห้ง (ทำให้แสบตา ระคายเคืองตาง่าย) ได้ 68%
  • แนะนำให้กินปลาทะเลที่ไม่ผ่านการทอด 2-3 ส่วนบริโภคต่อสัปดาห์ (1 serving = เนื้อ 90 กรัม = เนื้อปลากระป๋องขนาดเล็ก 1 กระป๋อง = ครึ่งถ้วยตวงข้าวหม้อหุงข้าวไฟฟ้า)

 

 

(5). ถั่วเปลือกแข็ง (nuts / นัท) และเมล็ดพืช (seeds)

  • แนะนำให้กินถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ฯลฯ และเมล็ดพืช เช่น ทานตะวัน ฯลฯ มีวิตามิน E ซึ่งช่วยป้องกันต้อกระจกและจอตาส่วนกลางเสื่อมสภาพ (AMD) วันละ 1 ฝ่ามือ (ไม่รวมนิ้วมือ)

 

(6). ผลไม้และผักสดๆ (fresh fruits & vegetables)

  • ผลไม้สดมีวิตามิน C และสารพฤกษเคมี (สารคุณค่าพืชผัก) ที่ช่วยลดเสี่ยงโรคต้อกระจก ต้อหิน จอภาพส่วนกลางเสื่อม (AMD)
  • แนะนำให้ทำน้ำผลไม้ปั่นไม่กรองกากดื่มตอนเช้า สายๆ จนถึงบ่ายให้กินผักหลายๆ สี เช่น พริกแดง ฯลฯ จะกินสดหรือปรุงด้วยความร้อนช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ไมโครเวฟ ฯลฯ ก็ใช้ได้

Food For Brain

มาตรฐาน

สมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว พฤติกรรม และรักษาสมดุลภายในร่างกาย หน้าที่ของสมองยังมีเกี่ยวข้องกับการรับรู้ อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว และความสามารถอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ ดังนั้นน้องๆ ควรจะกินอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มเสริมสร้างให้สมองของเราพร้อมเปิดรับสิ่งต่างๆ วันนี้พี่แก๊ปป้ามี 7 อาหารที่จะช่วยบำรุงสมองของน้องๆ บำรุงไว้ก่อนสอบ อิอิ

 

1. ถั่ว มีทั้งโปรตีน ใยอาหาร และไขมันที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินอีซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง

 

2. ไข่ อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด อีกทั้งยังมีไขมันซึ่งให้พลังงานแก่สมองได้นานหลายชั่วโมง ซีลีเนียมในไข่ออร์แกนิกก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้

 

3. สาหร่ายทะเล สาหร่ายทะเล มีไอโอดีนและโอเมก้า 3 สูงจัดว่าเป็นอาหารบำรุงสมองอย่างหนึ่ง ที่สำคัญและยังช่วยให้เส้นผมดกดำได้อีกด้วย

 

4. มะเขือเทศ ในมะเขือเทศ มันจะมีไลโคพีน ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ สามารถช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระที่เราสามารถพบในอาการ ของโรควิกลจริต และอัลไซเมอร์

 

5. นมถั่วเหลือง มีวิตามินบี 6 ที่ช่วยการทำงานของสมอง สร้างระบบภูมิต้านทานของร่างกาย อีกทั้งยังมีวิตามินอี และกรดไขมันจำเป็นอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส มีธาตุเหล็ก ที่เสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง รวมทั้ง เลซิธิน (Lecithin) สารประกอบของฟอสฟอรัสกับไขมัน ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ และช่วยบำรุงสมองด้วย

 

6. กล้วย มีส่วนประกอบของวิตามิน B6 ที่ช่วยในการทำงานของสมองทั้งยังรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้คงที่ ซึ่งมีผลไปถึงอารมณ์ของคุณด้วย จากการวิจัยพบว่ากล้วยซึ่งอุดมไปด้วยโปแตสเซียมนี้ช่วยให้นักเรียนรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นทำให้เรียนได้ดีขึ้นในที่สุด

 

7. สตรอเบอร์รี ผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเป็นอาหารสมอง เส้นเลือด และหัวใจ ไม่ว่าเด็กๆ ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัยก็กินได้ เพราะสตรอเบอร์รี่มีสารอาหารหลากหลาย มีวิตามินซีเป็น 10 เท่าของแตงโม แอปเปิล และองุ่น และมีส่วนช่วยลดโอกาสการเป็นโรคมะเร็งด้วย